Whisper Of The Heart : Alone in Japan 2017


“เพราะอยู่กับตัวเองมากขึ้น ก็จะได้ยินเสียงหัวใจตัวเองตามมา”
เกริ่นมาแบบโรแมนติคมากๆ 555 นี่เป็นทริปที่ได้ไปช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา แอดจะพาไปชมใบไม้แดง
แบบสไตล์ของแอดเอง ที่สำคัญเป็นการไปญี่ปุ่นคนเดียวครั้งแรก
ไปแบบกล้าๆกลัวๆ แต่สุดท้ายแอดว่า “มันดีนะ” ^^
ขอเกริ่นก่อนว่าที่ๆแอดไปเกือบหลายๆที่ คือที่ๆมีคนเคยทำรีวิวไปเยอะแล้ว
บทความต่อไปนี้ก็จะเน้นไปที่ภาพ และฟีลตอนนั้นที่แอดไปเจอมาละกัน

ที่แรกที่จะพาไปดูเป็นวัดชื่อดังในเกียวโต ใครไม่ไปถือว่าพลาดจ้า
เพราะสำหรับวัดนี้สวยถูกใจแอดเลย “วัดน้ำใส” (Kiyomizudera Temple)
ช่วงที่ไปใบไม้ก็เริ่มร่วงไปบ้างแล้วเล็กน้อย อ่อ.. แอดไปช่วงวันที่ 2-10 ธันวาคม
แต่ปีที่ผ่านมาช่วงพีคของใบไม้แดงอยู่อาทิตย์ก่อนแอดไป
แต่หลายๆที่ก็ยังแดงสวยอยู่นะ ถือว่าคุ้มค่าตั๋วอยู่ 555


วัดดังๆในแถบคันไซเกือบทุกที่จะมีค่าเข้าชม สำหรับที่นี่ 400 เยน ในช่วงฤดูใบไม้แดง


 ไม่รีรอเดินเข้าไปก็เจอกับกลุ่มนักเรียนที่มาทัศนศึกษาที่นี่
 ตอนนั้นคือกำลังถ่ายรูปรวมกันอยู่ บรรยากาศคือตลกมากอาจารย์ที่เป็นคนถ่ายจะให้นักเรียนทำท่าต่างๆ ถึงจะไม่เข้าใจว่าพูดอะไรกัน นักเรียนฮาแอดก็ฮาตาม


เดินขึ้นมาหน่อยก็จะพบเจดีย์สีแดงที่ต้องให้หยุดดูสักพัก งานประณีตมาก


เอาหละ ใบไม้แดงของแอดมาแล้ววว ครั้งแรกเลย สวยมาก น้ำตาไหล 555
และตามธรรมเนียมของช่วงนี้ก็จะมีทั้งชาวต่างชาติและชาวญี่ปุ่นเอง ใส่ชุดกิโมโนมาถ่ายรูปกัน
แต่ถ้ามาเป็นกลุ่มใหญ่ มั่นใจได้เลย คนไทย 555555 เจอตลอดเหมือนยังอยู่ไทย






อุปสรรคของการมาคนเดียวก็คือเราจะพบคู่รักที่ออกจะสวีทกันเกินไปหน่อยย 555



เอาหละมาถึงไฮไลต์ของเรา มุมมหาชน ซึงรู้อยู่แล้วแหละว่ากำลังปิดซ่อมแซมอยู่
เพราะจะเปิดต้อนรับ Olympic 2020 ที่กรุงโตเกียว เค้าว่ากันนะ
สภาพที่ไปเจอก็มาได้ประมาณนี้


ประวัติที่ระเบียงวัดคิโยมิสึคือในสมัยเอโดะ คนที่มาขอพรเค้าจะมากระโดดลงมาข้างล่างกัน (จริงดิ!!)
เพราะเชื่อว่าถ้ารอดมาได้พรนั้นจะเป็นจริง แต่เค้าว่าเพราะมีต้นไม้ที่หนาแน่นข้างล่างก็จะช่วยชะลอไม่ให้หล่นแรงงี้  "อืมม...รอดมาได้พรที่ขอก็มีสิทธิ์เป็นจริงเนอะ"


 เอาหละ มาวัดก็ต้องมาขอพรกันหน่อย แอดไม่ค่อยเชื่อหรอก แต่ไม่พลาดที่จะเดินไปตักมาดื่ม 5555
น้ำสาย 1 ด้านการศึกษา , น้ำสาย 2 ด้านความรัก , น้ำสาย 3 ด้านสุขภาพ
แอดขอสุขภาพแล้วกัน เป็นคนรักสุขภาพ อิๆ



คือในวัดจัดสถานที่ไว้ดีอยู่แล้ว เดินได้เรื่อยๆและไม่เหนื่อยเกินไป (ถ้าไม่รวมว่าเดินมาจาก
สถานี kiyomizu michi แบบว่าขึ้นเนินสุดดด 5555 เตรียมกำลังขากันให้ดีเลยมาญี่ปุ่นเนี่ย)

สุดท้ายสำหรับแอดถือเป็นวัดที่ต้องมา ถ้าตรงตัววัดจริงบูรณะเสร็จแล้ว แอดก็อยากไปอีกนะ
แล้วการไปเที่ยวเองคนเดียวในญี่ปุ่นก็ไม่ยากอย่าที่คิด ถ้าเตรียมตัวไปบ้าง หาข้อมูลไปบ้าง
ที่เหลือพระเจ้าจะนำทางเราเอง 5555 



Black Sand Beach : หาดทรายดำ จ.ตราด 1 ใน 5 ของโลก โอ้มายก็อดโคตรจะอันซีน


เมื่อเราไปเที่ยวทะเล เรามักนึกถึงหาดทรายสีขาวละเอียดที่ทอดยาวไปไกล แต่รู้มั้ยยังมีที่แห่งหนึ่งที่ซ่อนเร้นอยู่เกือบจะสุดแผ่นดินตะวันออกของประเทศไทย ที่ๆหาดทรายเป็นสีดำปิ๊ด เม็ดทรายละเอียดยิบ นั่นก็คือ "หาดทรายดำ" หรือชื่อเต็มๆคือ ศูนย์การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ​หาดทรายดำและป่าชายเลน ตั้งอยู่ที่ อ.แหลมงอบ จ.ตราด ซึ่งปัจจุบันหาดทรายดำในโลกมีเพียง 5 แห่ง ซึ่งหาดทรายดำที่ จ.ตราดนั้น ถือเป็น 1 ใน 5 ของโลกและเป็นแห่งเดียวในประเทศไทยเลยทีเดียว ฟังแล้วแสนจะโอ้วมายก้อดดด โคตรจะ unseen เลยมั้ยล่าววว




ที่นี่นอกจากจะมีหาดทรายสีดำแล้วยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอีกด้วย ก่อนที่เราจะเดินไปถึงหาดทรายดำเราจะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่ร่มรื่นและระบบนิเวศป่าชายเลนระหว่างทางเดินที่ทำด้วยคอนกรีตแข็งแรง ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ในยุคแรกๆทางเดินศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนของที่นี่ทำเป็นไม้มาก่อน ซึ่งเข้ากับธรรมชาติได้ดีกว่า สวยงามกว่า แต่ต้องใช้งบประมาณสูงในการดูแลซ่อมบำรุงทางเดิน จึงทำใหม่เป็นคอนกรีต เดินสบายไม่ต้องกลัวหักเน้อออ 555 








การมาเที่ยวหาดทรายดำควรเลือกมาในช่วงเวลาน้ำลงหรือช่วงเย็น เพราะจะได้เห็นหาดทรายดำที่กว้างกว่าตอนน้ำขึ้น ซึ่งอาจจะไม่เห็นหาดเลย แล้วยังได้นั่งดูพระอาทิตย์ตกดินที่ศาลาที่ยื่นลงไปในทะเลอีกด้วย โอ้ยยย แสนจะโรแมนติกเลยจร้าาา





เชื่อกันว่าทรายที่หาดทรายดำนี้มีแร่ธาตุต่างๆมากมายซึ่งถ้านำเท้าไปหมกทรายประมาณ 10-20 นาทีสามารถทำให้ระบบการไหลเวียนโลหิตดีขึ้นหรือแค่เราเดินบนทรายดำก็จะมีสุขภาพเท้าที่ดีขึ้น 








เวลา : 8.30 - 16.30 น.
แผนที่ Google Map
GPS 12.1710636,102.4043938

บัตร TRAT PRIVILEGE บัตรคูลๆของคนตราด by Bangkok Airways


เป็นคนตราดเหมือนจะอยู่ใกล้กรุงเทพ แต่จริงๆคือไม่เลย เดินทางลำบากมาก สำหรับคนที่ไม่อยากขับรถส่วนตัวไปนั้นนน นั่งรถตู้ก็กลัวตาย นั่งรถทัวร์ก็นานไปเมื่อไหร่จะถึง แต่ในที่สุดเราก็มาพบทางออกดีๆ คือ ไปเครื่องบินแม่งงง 555 จากตราดมีสายการบินเดียวคือ Bangkok Airways สายการบินระดับภูมิภาคที่ดีที่สุดในโลก และดีที่สุดในเอเชียร์จากสกายแทร็กซ์ ปี 2559 (งานอวยก็มา)

บัตร Bangkok Airways TRAT PRIVILEGE บินตราด-กรุงเทพ ราคา 1,500 บาท/เที่ยว (ยังไม่รวมภาษี) ราคานี้จองแล้วบินเลย แถม Full Service นะเธ๊อออ เงื่อนไขการสมัครก็ง่ายๆคือต้องเป็นคนตราด จันทบุรี และระยอง หรือเป็นข้าราชการ พนักงานบริษัทเอกชน เจ้าของกิจการ นักเรียนนักศึกษาในจังหวัดตราด จันทบุรี และระยอง


สนามบินตราดนั้นโคตรจะคูล หลังคามุงหญ้าคาจร้าาา และเป็น open air ให้เราได้สูดอากาศบริสุทธิ์ของเมืองท่องเที่ยวชายทะเลที่แท้จริง โอ่ยยย ร้อนเหมือนกันเน้อออ คิดไว้ว่าตัวเราเป็นญาญ่า บินแล้วสวยแบบญาญ่า 555





ของกินน้อยกว่าเลาจ์ที่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่มีข้าวต้มมัดซิกเนอเจอร์ก็โอเคล้ะ 555


นั่งรอซักพักเครื่องที่บินมาจากสุวรรณภูมิก็มาถึง landed เรียบร้อย แต่เดี๋ยวรอพี่อยู่ตรงนี้ก่อนนะ เดี๋ยวพี่ไปวนเครื่องมารับ หลังจากที่ผู้โดยสารจากสุวรรณภูมิลง เติมน้ำมันเสร็จเรียบร้อย ก็มีเสียงประกาศให้เราไปเตรียมตัวขึ้นเครื่องได้เลย โดยนั่งรถรางไปแบบนี้ ชิวจริงๆ


เครื่องที่ใช้คือเครื่องบินใบพัด ATR-72 เป็นเครื่องบิน 2 ใบพัด 70 ที่นั่ง มีทางขึ้นลงทางเดียวที่ท้ายเครื่อง ด้านในห้องโดยสารมีที่นั่งแค่ 4 แถว แต่ที่นั่งกว้าง นั่งสบาย และด้วยความที่เป็นเครื่องบินเล็กตอนขึ้นลงก็จะระทึกนิดนึง ตอนบินผ่านเมฆก็จะระทึกอีกนิดนึง 555




อาหารบนเครื่องก็จะเป็นเมนูง่ายๆ แต่ต้องรีบกินหนักมาก เพราะใช้เวลาบินแค่ 40 นาทีก็ถึงแล้ว แต่เอาจริงๆก็กินไม่ไหวแล้ว จัดในเลาจ์มาหนักไป๊ 555 เราชอบชามะนาวมากบอกเลย จัดทุกเที่ยว




ส่วนขากลับนั้นก็มี Boutique Lounge Bangkok (Domestic) ที่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังจากผ่านการตรวจกระเป๋าเข้าไปข้างในเรียบร้อย เราก็ไปปักหลักนั่งรอในเลาจ์ที่สามารถใช้ได้ฟรีทุกคนแค่ไชว์ boarding pass แล้วก็จะได้รับรหัส wifi มาเล่นกันฟรีๆได้ด้วยนะ อาหารว่างก็มีทั้งข้าวต้มมัด ขนมปัง แซนวิช ไพน์ใส้ตั่งต่าง popcorn น้ำผลไม้ ชา กาแฟ นมสด มีครบแบบจริงจังมากกก


เกตที่เราไปรอเป็น bus gate เพราะเป็นเครื่องเล็ก แล้วก็จอดไกลมาก แต่ bus gate ดีตรงที่ไม่ต้องเดินไกล ชอบๆ





ถึงแล้วประเทศตราดบ้านเรา เดินทางสบายๆในราคาเบาๆ สนามบินตราดมีความแมนวลมาก จุดรับกระเป๋าคือเป็นแท่น พนักงานก็จะยกกระเป๋าเราขึ้นจากรถมาวางๆ ก็เลือกหยิบได้เลย เก๋สุด 555